รหัสธรรมลี้ลับซึ่งอยู่เบื้องหลังภาพลักษณ์ของมนุษย์
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
รูปแบบมากมายถูกค้นพบโดยองค์การนาซ่าและองค์กรที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ศาสนาแห่งพระผู้เป็นเจ้า รหัสธรรมลี้ลับที่ถูกซ่อนเร้นของพระผู้เป็นเจ้า หนังสือฉบับนี้มีคุณค่าพร้อมกับการศึกษาและการแสวงหาโดยทุกๆ ศาสนาทุกๆ นิกายและประชาชนทั้งหมด และเป็นการนำเสนอสิ่งที่ท้าทายแก่ผู้ซึ่งปฏิเสธเรื่องแห่งจิตวิญญาณ แปลโดย
สถาบันภาษาธุรกิจสากล พิมพ์ครั้งที่ 1 มกราคม พ.ศ.2543 สงวนลิขสิทธิ์ ประเทศไอแลนด์เหนือ
|
ท่านโกฮา ชาฮิ 3 ปี ในการเข้าเงียบหรือฝึกจิต |
ได้รับการรักษาให้หายขาดจากการบำบัดทางจิตวิญญาณของท่าน และพระผู้เป็นเจ้าได้ปรากฏตัวท่าน โกฮา ชาฮิ บนดวงจันทร์ และรูปแบบใบหน้าของท่านก็ปรากฏบน หินดำศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเมกกะ และท่านก็ได้กลายเป็นที่รู้จักกันทั้งโลก
นักบวชซึ่งมีวิสัยทัศน์อันใกล้และแคบ และมูลลาช และบุคคลซึ่งมีความเกลียดชังต่อนักบุญ และก็มีความจงเกลียดจงชังชาวมุสลิม ผู้ซึ่งไม่ชอบ ท่านโกฮาเป็นการส่วนตัว บุคคลเหล่านี้ ได้อ่านบางส่วนของหนังสือ นอกเหนือจากบริบท และโดยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้กล่าวหาท่านโกฮา สบประมาทต่างๆ นาๆ และกล่าวร้ายท่านจนท่านได้กลายเป็นบุคคลซึ่งต้องโทษจำคุกถึงประหารชีวิต
มีการขู่ปาระเบิดในบ้านของท่านที่ เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษและที่บ้านของท่านโกฮา ในโกทรี่ ในปากีสถาน มีระเบิดมือได้เข้าคุกคามในช่วงระหว่างมีการให้ปาฐกถา และมีการตั้งรางวัลค่าหัวของท่านในปากีสถาน ดังนั้นท่านโกฮาจึงเป็นบุคคลซึ่งตกอยู่ในอันตรายและเป็นผู้ซึ่งได้รับการกล่าวหาว่ามีคดีที่ร้ายแรงอีก 5 คดี และต้องทำการสืบสวนและสอบปากคำท่าน
และเนื่องจากนาวาซ ชาริฟ
ซึ่งเป็นรัฐบาลท้องถิ่นของซินด์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนักหนังสือพิมพ์ซึ่งมีอคติได้กล่าวหาท่านให้เกิดเรื่องเสียหายระดับกว้าง สุดท้ายหลังมีการสืบสวนและก็มีการดำเนินคดีก็ได้ยกฟ้องในทุกกรณีซึ่งกล่าวร้ายท่านโกฮา ชาฮิ และประกาศว่าข้อหาทั้งหมดนั้นเป็นเท็จและพระผู้เป็นเจ้าก็ยังคงปกป้องเพื่อนของพระองค์ (โกฮา ชาฮิ) จากภยันตรายทั้งหลายแหล่
หลังจากการปรากฏตัวของท่านโกฮา ชาฮิ ภาพใบหน้าของท่านซึ่งปรากฏบนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ หินดำ และวัดชิฟ และในอีกหลายๆ สถานที่ ชาวมุสลิมจำนวนมากมายอีกทั้งชาวประชาชนซึ่งไม่ได้เป็นมุสลิมก็มีความรู้สึกและเกิดความเชื่อว่า ชายผู้นี้ก็คือ เมดิ ซึ่งได้รับการรอคอย Mehdi กาลคิ อะวาต้า และเมสสิอะ บุคคลซึ่งได้รับการกล่าวถึงในคัมภีร์ของศาสนาทั้งหมด
ให้นักเรียนลองตรวจสอบและเข้าถึงบุคคลต่างๆ ให้เข้าใจถึงบุคคลคนนี้โดยการวิจัยและการศึกษาเกี่ยวกับข้อเขียนของท่านโดยเฉพาะในตำราในรายละเอียด จะพบว่าถ้าเราสามารถที่จะยอมรับท่านได้ คุณก็คงสามารถที่จะติดต่อกับพวกเราและถ้าคุณปรารถนาที่จะทำการศึกษาค้นคว้าต่อไป
โมฮัมเหม็ด
ยูนัส
ลอนดอน
younus38@hotmail.com
บทนำ
ศาสนาต่างๆ
ซึ่งมีอยู่ก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากหนังสือเกี่ยวกับสวรรค์ซึ่งมีความเหมาะสมและตราบเท่าที่คัมภีร์
ต่างๆ นั้นยังมิได้รับการเปลี่ยนแปลง ภาษาต่างๆ
ก็เหมือนกับเรือและก็นักศึกษาก็เปรียบเสมือนกับใบพาย
ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนั้นต้องเผชิญกับความบกพร่องก็จะเกิดกลายเป็นสิ่งที่ยากลำบากในการที่จะค้นหาไปถึงฝั่ง
ยังไงก็ตามนักบุญต่างๆ
ก็ได้พยายามที่จะใช้เรือที่มีความเสียหาย
(ประชาชน)
นำพาประชาชนไปถึงฝั่ง
และด้วยเหตุผลนี้เองก็เถิด
ประชาชนซึ่งมีการแตกสลายพลัดพรากจากกันไปหรือไม่ได้รับความสมบูรณ์มารวมกันอยู่ท่ามกลางนักบุญต่างๆ
ความรักของพระผู้เป็นเจ้านั้นอยู่เหนือกว่าศาสนาและเป็นสาระถาของพระพุทธศาสนา ติดที่แสงแห่งพระองค์นั้นยังคงสอดส่องและนำทางกับเชิงเทียนส่องทางที่จะนำไปสู่อนาคต มี 4 ส่วนของความรู้และ 3 ส่วนนั้นจะเห็นได้จากสิ่งที่เราสัมผัสได้
ส่วนที่ 1 ก็เป็นส่วนที่ลี้ลับ(หรือ)เป็นส่วนของจิตวิญญาณซึ่งจะต้องแพร่ขยายไปโดยคิด Khidr (วิศณุมหาราช)
มีความรักของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะเป็นส่องทางนำไปสู่ความใกล้ชิดกับพระองค์ สุนัขต่างๆ นั้นยังดีเสียกว่าจิตใจของบุคคลซึ่งว่างเปล่าและปราศจากพระผู้เป็นเจ้า เสมือนกับสุนัขต่างๆ ที่รักเจ้านายและจะกลายเป็นเหตุผลที่ว่าความรักนั้นบรรลุเป้าหมายไป และจะได้เข้าสัมผัสใกล้ชิดพร้อมกับเสน่หากับเจ้านายของสุนัขเหล่านั้น มิฉะนั้นสุนัขที่ไม่สะอาดและมนุษย์ผู้ซึ่งได้รับการขจัดความสกปรกไปโดยพระผู้เป็นเจ้า ไม่สามารถที่จะนำมาเปรียบกันได้
ถ้าคุณปรารถนาถึงสวรรค์ สาวใช้อันบริสุทธิ์และพระราชวังต่างๆ ที่อยู่ในสวรรค์นั้นก็ต้องทำการสักการะบูชาอย่างมากมายเพื่อที่จะเข้าถึง จุดสูงสุดแห่งสวรรค์
และถ้าคุณกำลังแสวงหาเพื่อพระผู้เป็นเจ้าคุณจะต้องเรียนรู้ถึงจิตวิญญาณ และดังนั้นขณะซึ่งสิ่งที่คงเหลืออยู่ แนวทางที่คุณจะต้องมาถึง ณ สาระสำคัญแห่งพระผู้เป็นเจ้าและจะต้องเข้าถึงการเข้าถึงอยู่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์
มนุษย์จากเริ่มต้นจนถึงจุดจบ
เมื่อพระเจ้าประสงค์สิ่งที่จะสร้างจิตวิญญาณ พระองค์ได้กล่าวว่าเป็นให้เป็นแล้วก็เกิดดวงวิญญาณมากมายขึ้นต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าและใกล้ชิดพระองค์ จิตวิญญาณของประดาสิ่งต่างๆ เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้และในลำดับที่ 2 ก็จะเป็นวิญญาณนักบุญต่างๆ และในแถวที่ 3 ก็จะเป็นวิญญาณของผู้ที่มีความเชื่อและเบื้องหลังของลำดับแถวต่างๆ ก็จะเป็นวิญญาณของปุถุชนธรรมดา
ถัดจากนั้นไปก็จะเป็นสายตาที่สามารถมองเห็นแถวต่างๆ ซึ่งอยู่ยาวไกลโพ้นออกไปวิญญาณของผู้หญิงสามารถที่จะมาคงอยู่สภาพของความเป็นอยู่ได้
และดังนั้นถัดออกไปก็จะเป็นจิตวิญญาณของสัตว์ต่างๆ
และก็จิตวิญญาณแห่งพฤกษาทั้งหลาย เช่นจิตวิญญาณของสิ่งที่ได้รับการผูกมัดดังกล่าวนั้นก็จะมิได้ครอบครองพลังแห่งความเคลื่อนไหวสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ ก็จะได้รับการกระทำให้เป็นวัตถุ
ส่วนที่ 2 ทางด้านขวาของพระผู้เป็นเจ้าเจ้านั้นก็จะเป็นจิตวิญญาณของเทพยาดาและด้านหลังถัดออกไปก็จะเป็นจิตวิญญาณของผู้บริสุทธิ์และสาวใช้ที่มีคุณงามความดีแห่งสวรรค์บุคคลที่ไม่สามารถที่จะพบพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้าตามที่เทวดาต่างๆได้อยู่ทางด้านขวาของพระองค์และด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขานั้นไม่สามารถที่จะเห็นพระพักตร์ของพระองค์ด้านหลังนั้นก็จะเป็นจิตวิญญาณของผู้ที่เปรียบเสมือนนางฟ้าและต่อมาได้เข้ามาสู่โลกและทำการช่วยเหลือประกาศกและนักบุญต่างๆ ในการทำงานพระราชธรรมของพวกเขาและต่อมาทางด้านซ้ายของพระองค์นั้นก็จะเป็นจิตวิญญาณของนางฟ้าและเบื้องหลังนางฟ้าเหล่านี้ก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของผู้ซึ่งเป็นเหมือนซานตาน คล้ายนางฟ้าซึ่งมิสามารถมองเห็นได้ด้วยตาและอีกรูปแบบหนึ่งของจิตวิญญาณชั่วร้ายทั้งหมดของบุคคลเหล่านี้ต่อมาก็จะเข้ามาสู่โลกและจะช่วยเหลือพวกซาตานและการคุกคามที่กระทำสิ่งที่เลวร้ายจิตวิญญาณต่างๆ ทางด้านขวาและท่านด้านซ้ายและก็ดวงวิญญาณต่างๆ ซึ่งอยู่ไกลถัดออกไปเท่าที่สายตาสามารถจะเห็ก็ไม่สามารถที่จะเห็นการปรากฏรูปโฉมของผู้เป็นเจ้าซึ่งยิ่งใหญ่และอลังการได้ และด้วยเหตุผลนี้เองนางฟ้า จิตวิญญาณต่างๆ เทวดา และสุภาพสตรีสามารถที่จะพูดหรือสื่อสารกับสาระถะแห่งพระผู้เป็นเจ้าแต่ไม่สามารถที่จะเห็นพระองค์
ส่วนที่ 3 ในท่ามกลางหมู่วงโคจรของดวงดาว และลูกไฟก็ได้รับคำสั่งให้เกิดความเยือกเย็นและกลิ่นหอมรวมไปถึงชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ในอวกาศซึ่งก่อให้เกิดระบบสุริยจักรวาล ดวงจันทร์ ดาวอังคาร ดาวจูปิเตอร์ โลก และดวงดาวต่างๆ ซึ่งเป็นเศษส่วนด้วยเหตุที่ดวงอาทิตย์นั้นยังมีส่วนที่คงอยู่ของ ลูกไฟและโลก ก็ไม่มีอะไรเว้นแต่ว่าเป็นถ่านหินและเถ้าถ่านจิตวิญญาณที่คงผูกมัดใน(จิตวิญญาณซึ่งผูกมัดและเป็นอะตอมเป็นอณูและเป็นชิ้นส่วนต่างๆ) ก็ถูกส่งมายังโลกและด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้นซึ่งเถ้าถ่านก็ได้รับการกระทำให้เกิดกลายเป็นรูปแบบและกลายเป็นหินจิตวิญญาณของพุทธศาสตร์จะถูกส่งลงมาด้วยเหตุผลดังกล่าวซึ่งต้นไม้และการเพาะปลูกจึงเกิดขึ้นจากหินและหลังจากนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้นจิตวิญญาณของสัตว์จึงเข้ามาสู่โลก และสัตว์ต่างๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นพระผู้เป็นเจ้าได้ถามดวงวิญญาณทั้งหมดว่า
ฉันเป็นเจ้านายของท่านหรือ ดวงวิญญาณต่างๆ ยอมรับและก็ก้มโค้งคำนับพระองค์หรืออีกใจความก็คือจิตวิญญาณของหินและต้นไม้ก็ได้ทำการสักการะพระพุทธเจ้าของตนเองตามที่ได้กล่าวไว้ในถ้อยคำแห่งคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์
พระผู้เป็นเจ้าท่านสร้างโลกแห่งความลวงตาและความปรารถนาที่มิเป็นแก่นสารเมื่อทดสอบดวงวิญญาณและกล่าวว่าถ้ามีดวงวิญญาณดวงใดมีความประสงค์ในเรื่องเหล่านี้พวกเขาก็จะต้องดำเนินต่อไปและรับสิ่งนั้น ดวงวิญญาณจำนวนหลากหลายและมากมายก็ได้หันหน้าหนีห่างจากพระองค์ไปและเก็บเกี่ยวผลแห่งโลกซึ่งมีแต่ความหลอกลวงและดังนั้นนรกก็จึงถูกจารึกขึ้นสำหรับพวกเขาเสมือนเป็นชะตาชีวิตและเป็นที่พำนักสุดทางแห่งพวกเขา พระผู้เป็นเจ้าแสดงให้เห็นถึงภาพแห่งสวรรค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีกว่าสิ่งที่เห็นได้ก่อนและชัดเจนและเป็นสถานที่สำหรับผู้ซึ่งกราบคาราวะและผู้ซึ่งมีความ
นบนอบดวงวิญญาณมากมายเกี่ยวกับผลจากภาพและสวรรค์และดังนั้น สวรรค์จึงถูกกำหนดให้เป็นเป้าหมายสุดท้ายสำหรับพวกเขา ดวงวิญญาณมากมายไม่สามารถที่จะตัดสินใจและดวงวิญญาณเหล่านี้จึงได้รับการจัดแจงสถานที่ในระหว่างความกรุณาของพระผู้เป็นเจ้าและซาตาน ดวงวิญญาณดังกล่าวเหล่านั้นหลังจากที่ได้ลูกเข้ามาสู่
โลกนั้นก็ถูกติดกับดักในเป้าหมายสุดท้าย ซึ่งอยู่ในมือของบุคคลใดก็ตาม ซึ่งพวกเขานั้นกลายเป็นพวกที่ยึดติดกับสิ่งเหล่านั้น ดวงวิญญาณต่างๆ หลากหลายยังคงมองหาการปรากฏแห่งพระผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งมีความยิ่งใหญ่และมิปรารถนาโลกหรือสวรรค์ พระองค์เริ่มต้นที่จะรักดวงวิญญาณเหล่านี้และดวงวิญญาณเหล่านี้ก็รักพระองค์เช่นกัน
นั่นคือ ดวงวิญญาณดังกล่าวเหล่านั้น หลังจากซึ่งได้มาบังเกิดอยู่ในโลกและเพียงเพื่อพระผู้เป็นเจ้าและการดำเนินการให้สำเร็จเสร็จสิ้งไปของพระองค์โดยวิญญาณเหล่านั้นก็ได้ละทิ้งโลกแห่งวัตถุนิยม และกลายเป็นผู้บำเพ็ญเพียรและอาศัยอยู่ในป่าต่างๆ
ในการรับใช้ดวงวิญญาณต่างๆ และความรุ่งเรืองมีรูปแบบต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต หนึ่งหมื่นแปดพันประการที่ถูกสร้างขึ้น หกพันประการเป็นรูปแบบของสัตว์ทะเล และอีกหกพันเป็นสัตว์บกและอีก หกพันที่เหลือเป็นสัตว์อวกาศ และขอบเขตแห่งสวรรค์ชั้นบน
พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างสวรรค์ไว้ เจ็ดแบบและนรกไว้ เจ็ดชั้น
สวรรค์เจ็ดแบบนั้นก็คือ คูล์ด, ดาร์-อูล-ซาลาม, ดาร์-อูล-ควารา, อาดาน,อัล-มาวา,
นาอีมและเฟอร์ดอส
นรกเจ็ดแบบก็ประกอบด้วย
ซ๊ากเออร์,
ซาอีเออร์,
นาธา,
ฮัทมา, ฮาจีม, จาฮันนั่ม และ ฮาวีญ่า
ชื่อทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ ก็เป็นภาษา ซีรีอั๊ค
แบบโบราณหรือ ซีรีอั๊ค เซมิติกแบบโบราณ (เป็นภาษาซึ่งพระผู้เป็นเจ้าใช้พูดกับเทวดา)
ศาสนาทั้งหมดนั้นก็คือ มีความเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้านั้นจะส่งใครก็ตามที่พระองค์ทรงเลือกสรรค์ไปยังนรกหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ตามที่พระองค์เลือกสรรค์ไปสู่สวรรค์ และในกรณีของพระผู้เป็นเจ้าก็อาจจะกล่าวว่า คุณถ้าเลี่ยงหรือหลบหนีจากฉันและเลือกโลกมนุษย์แทน ดวงวิญญาณก็จะกล่าวว่า ฉันได้กระทำการเลือกและตัดสินใจได้อย่างโง่เขลา และมิได้ทำสิ่งใดๆ ต่างๆ ผิดและเนื่องจากว่า การโต้แย้งและเพื่อเหตุผลนี้พระผู้เป็นเจ้าจึงได้ส่งวิญญาณมายังโลก
ร่างกายของอดัม ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของ ชันการ์-จิ ซึ่งทำมาจากดินเหนียวและมาจากสวรรค์ พร้อมด้วยวิญญาณอื่นๆ นั้นก็ถูกส่งลงมาเช่นกัน เมื่อร่างของอดัมถูกสร้างขึ้น ส่วนซาตานนั้นก็มาจากสภาพของความชั่วร้ายและความครอบงำในความริษยา
ต่ออดัมและซาลลิวาก็ได้มาถึงยัง
ณ จุดกึ่งกลาง
แบคทีเรียที่มีอยู่ในซาลลิวา
ดังนั้นก็ผสมผสานเป็นร่างกายขึ้น
และซาตานก็มาจากซึ่งท่ามกลางของเชื้อชาติแห่งนางฟ้าต่างๆ
มีการกล่าวถึงในข้อความของประกาศว่ามนุษย์ก็มีความหมายเสมือนเป็นบ้านซึ่งทำขึ้นมาจากดินเหนียวและมีสภาพจิตวิญญาณ
16 แบบ อาศัยอยู่ภายในและมีสภาพจิตวิญญาณของสิ่งที่มีชีวิตหรือ
คานนัส
(และนกอีก
4 แบบ เป็นจิตวิญญาณซึ่งอยู่ภายในร่างกาย)
จากกระดูกด้านซ้ายของ อดัมและและเนื้อวัตถุที่เกิดขึ้นมา ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกับผู้หญิงในรูปแบบวิญญาณหนึ่งก็จึงถูกนำมาอาศัยอยู่ในนั้นและเธอก็กลายเป็น อีวา หลังจากนั้น อดัม ก็ถูกส่งไปยังสวรรค์ที่ศรีลังกาและ อีฟว์ ก็ถูกส่งไปยังเมือง เจ้ตด้า นี่คือจุดกำเนิดแห่งเผ่าพันธุ์เอเชีย
และบุคคลคนหนึ่งรักหลังจากจิตวิญญาณของบุคคลหนึ่งซึ่งถูกส่งมายังโลกจากขอบเขตแห่งสวรรค์เมื่อทำการศึกษา
ทำการฝึกฝนในเรื่องของการยกดวงวิญญาณ
ที่ถูกสร้างขึ้นมาเสมือนเป็นศาสนาต่างๆ
และตามเป้าหมายสุดท้ายและตามดวงชะตาของพวกเขาเหล่านั้น
ชีวิตจึงถูกเขียนขึ้นเพื่อเป็นการเริ่มต้นเวลาของวิญญาณต่างๆ
ที่ได้รับศาสนาและวิญญาณอื่นๆ
ซึ่งยังคงอยู่และปราศจากศาสนา
จิตวิญญาณที่รักของพระผู้เป็นเจ้าจะบังเกิดขึ้นในโลกนี้
และบางวิญญาณก็จะมาอยู่ในแวดวงของมุสลิม
บางกลุ่มวิญญาณก็จะไปสู่
ศาสนาฮินดู บางกลุ่มวิญญาณก็จะไปสู่ศาสนาซิกส์ และบางกลุ่มวิญญาณก็จะเกิดขึ้นในบ้านของคริสเตียน
และ จิว
จิตวิญญาณต่างๆ
นั้น โดยศาสนาต่างๆ
ตามลำดับพยายามที่จะค้นพบพระผู้เป็นเจ้า
และนี่คือเหตุผลที่ว่าบุคคลซึ่งมีความชอบธรรม
ใฝ่หาพระผู้เป็นเจ้าของศาสนาทั้งหมดนั้นจะต้องถือปฏิบัติรูปแบบของการบำเพ็ญเพียร
ชาวมุสลิมบางคนได้กล่าวว่าการบำเพ็ญเพียรดังกล่าวนั้น
มิได้มีอยู่ในหมู่ของอิสลาม
แต่นี่คือความคิดหรือความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง
ศาสดาโมฮัมเหม็ดก็ยังเคยเข้าไปบำเพ็ญเพียร
ณ ถ้ำฮิรา
หลังจากที่อสุจิได้เข้าสู่รังไข่
จิตวิญญาณที่มีพันธะก็มาถึงและทำให้เกิดเลือดที่รวมตัวกันเป็นก้อน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เอง
จิตวิญญาณของพฤกษาศาสตร์
และทารกน้อยก็เจริญเติบโตขึ้นในรังไข่
หลังจาก
4 เดือน จิตวิญญาณของสัตว์ก็จะถูกแทรกอยู่ในทารกน้อย
เนื่องจากเหตุผลที่ว่า
ทารกนั้น สามารถที่จะช่วยหรือเคลื่อนไหวภายในรังไข่ สิ่งเหล่านี้ก็จะก่อนให้เกิดจิตวิญญาณแห่งโลก
และหลังจากการเกิดของวิญญาณของมนุษย์ก็จะมาถึง
ตามมาพร้อมๆ กับจิตวิญญาณอื่นๆ
สิ่งเหล่านี้คือ
จิตวิญญาณแห่งสวรรค์
ถ้าเด็กตายในมดลูก
ชั่วขณะหนึ่งก่อนการเกิด
ดังนั้นก็จะไม่มีงานศพสำหรับเด็กทารกดังกล่าว
เพราะว่าถือว่ายังคงเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์
หากเด็กตายชั่วขณะหลังจากการเกิดดังนั้น
การดำเนินงานศพจึงเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ
เนื่องจากการมาถึงของจิตวิญญาณของมนุษย์และจิตวิญญาณของตนเอง
(อัตตา)
ซึ่งมาถึงพร้อมกับเพื่อนร่วมทางหรือจิตวิญญาณอื่นๆ
และเข้ามาพำนักอยู่
ณ จุดกึ่งกลาง
ถ้าจิตที่มีพันธะ
มีความแข็งแรงอยู่ในตัวเด็ก
ดังนั้นวัยผู้ใหญ่ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็จะชอบใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยภูเขา
ในทำนองเดียวกันเนื่องจากผลของจิตที่เป็น
พฤกษา การเติบโตเป็นมนุษย์ก็จะมีความรักความชอบในพันธุ์ไม้และดอกไม้
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเป็นจิตวิญญาณแบบสัตว์ที่มีอยู่ในตัวบุคคล
ความรักสัตว์และพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันกับสัตว์ต่างๆ
นั้นก็จะพัฒนาขึ้น
ด้วยเหตุที่จิตวิญญาณของตนเองโดยทั่วไปจะอ้างถึงเหมือนเป็นอัตตาแห่งมนุษย์
มีความคล้ายคลึงกับของสุนัข
และมีความชอบพอกับสุนัข
เมื่อจิตวิญญาณ เป็นที่ทราบดีว่าเป็น
คาล์ป
(Qalb) ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
สภาพความเป็นมนุษย์ก็จะมีธรรมชาติลักษณะเดียวคล้ายกับเทวดา
หลังการเสียชีวิตของบุคคลคนหนึ่งแล้ว
จิตวิญญาณแห่งสรวงสวรรค์
ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของแต่ละร่างกายก็จะกลับคืนาแว่นแคว้นแห่งเมืองสวรรค์
จิตวิญญาณแห่งโลกรวมถึงจิตวิญญาณขออัตตา
ยังคงอยู่ในโลก จิตวิญญาณแห่งโลกก็จะได้รับการแบ่งสรรค์ในร่างกายของแต่ละบุคคล
แต่จะค่อยๆ เคลื่อนจากร่างกายหนึ่งไปยังอีกร่างกายหนึ่ง
ตามที่จิตวิญญาณเหล่านี้ไม่มีพันธะ
ถูกตัด
หลังจากนั้นจิตวิญญาณของตัวเองของความศักดิ์สิทธิ์และของความบริสุทธิ์อย่างไรก็ตามยังคงอยู่
ณ ที่ฝังศพและยังคงเป็นที่เคารพ
การรำพึงภาวนา
และการช่วยเหลือทางด้านจิตวิญญาณ
และการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหมือกันกับที่ประกาศกโมฮัมเหม็ด
ที่อยู่ทางด้านขวาของทางขึ้นสู่สวรรค์
ได้ผ่านที่ฝังศพของประกาศกโมเสส
และเห็นว่าท่านโมเสส
ได้กำลังบำเพ็ญภาวนาอยู่เมื่อประกาศกโมฮัมเหม็ดเข้าถึงดินแดนแห่งสวรรค์
เขาจึงเห็นว่าประกาศกโมเสสนั้นอยู่ที่นั่นด้วย
จิตวิญญาณที่มีพลังอำนาจของตนเอง
(อัตตา)
ของสิ่งที่ชั่วร้ายและสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์จะร่วมกันกับกลุ่มของซาตานเพื่อทำให้ตัวเองอยู่รอด
การครอบครองร่างกายที่มีความแตกต่างกัน
และโดยทั่วไปจะก่อให้เกิดอันตรายกับบุคคล
สิ่งเหล่านี้เป็นจิตที่ชั่วช้า
และอยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ล
ระบุว่า พระเยซูเป็นผู้ขับไล่
บุคคลซึ่งถูกผีสิงและถูกผีเข้าครอบงำ
จิตวิญญาณทางโลกและจิตวิญญาณแห่งตนเองยังคงอยู่ในโลก
หลังจากความตาย จิตวิญญาณของมนุษย์นั้นได้ถูกส่งไปในบริเวณที่ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของความถูกต้อง
ซึ่งคอยก่อนการตัดสินหรือพิพากษาครั้งสุดท้าย
หรือไปยังอาณาเขตจากที่ซึ่งมีจิตวิญญาณชั่วร้ายคอยการพิพากษาเช่นเดียวกัน
จิตวิญญาณที่ยังคงอยู่ภายในร่างกายของมนุษย์และถ้าจิตวิญญาณเหล่านั้นมีความแข็งแรงและใด้รับการส่องสว่าง
พวกเขาก็จะไปคอยยังสถานที่ซึ่งถูกต้อง
หรือมิฉะนั้นก็จะยังคงอยู่อย่างสูญเหล่าในรูปของศพ
บางครั้งบุคคลหนึ่งอาจจะได้รับแรงจูงใจในเรื่องของสวรรค์ โดยการฝึกปฏิบัติการบำเพ็ญเพียร เช่น การสักการระบูชา การถือศีล และการรำพึงภาวนา ความพยายามต่างๆ ที่จะปรับปรุงและก็ปฏิรูปมันดีขึ้น เพียงว่าบุคคลนั้นได้รับสิทธิที่จะไปสู่สวรรค์ ประชากรหลายคนพยายามที่จะชำระล้างตัวเองและให้หนทางส่องสว่างเพื่อที่จะเข้าถึงระดับความรอบรู้ที่อยูในระดับชขั้นสูงกว่าโดยผ่านระเบียบทางจิตวิญญาณและบุคคลซึ่งกลายเป็นเสมือนเพื่อนของพระผู้เป็นเจ้า
(Nafs)
(ตนเองหรืออัตตา)
จุดเริ่มของซาตานเป็นดินแดนที่อยู่ที่กำหนดไว้ ณ จุดกึ่งกลางประกาศกและนักบุญต่างๆ พยายามหาที่พักพิงจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และมันก็ประกอบด้วยพวก กำมะถัน และกลิ่นอันเน่าเหม็น สิ่งเหล่านี้เป็นกระดูก เป็นถ่านและเป็นเสมือนขี้วัว ขี้ควาย
ศาสนาทั้งหมดนั้นได้เน้นถึงความสำคัญของการอาบน้ำหลังการมีเพศสัมพันธ์
เนื่องจากกลิ่นอันไม่บริสุทธิ์ที่ออกมาจากรูขุมขน
ยิ่งไปกว่านั้นการดื่ม
กินและซักต่างๆ ซึ่งมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
ก็ได้รับการห้ามไว้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เอง
ในช่วงเริ่มต้นวิญญาณทั้งหมดซึ่งอยู่หน้าพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้าและก็จนถึงรวมถึงจิตวิญญาณที่ไม่มีพันธะผูกมัด
ก็เป็นสิ่งที่คุ้นเคยซึ่งกันและกันและกลายเป็นสิ่งซึ่งสนับสนุนซึ่งกันและกันช่วยเหลือกัน
ด้วยเหตุผลของจิตวิญญาณที่มีการผูกมัดนั้นมาจากโลก ซึ่งก่อให้เกิดหิน ดิน ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งทำบ้านขึ้นมาจากหินและเป็นผลจากที่จิตวิญญาณของพฤกษาทั้งหลายมาสู่โลก ก็ก่อให้เกิดพืชพันธุ์ธัญญาหาร
พวกเขาได้สร้างรากสำหรับบ้านของเขาโดยรวบรวมไม้จากต้นไม้และรับผลประโยชน์เก็บเกี่ยวมาจากร่มไม้ชายคาของต้นไม้ซึ่งก่อให้เกิดอ๊อกซิเจนที่สะอาด
ผุดผ่อง จิตวิญญาณของสัตว์ซึ่งอยู่ด้านหลังของวิญญาณทั้งหมดก็ออกมาสู่โลก
และดังนั้นสัตว์ต่างๆ
ก็จึงเข้ามาสู่ความมีชีวิตและสัตว์เหล่านี้ก็ก่อให้เกิดกฏบังคับต่างๆ
สำหรับการบริโภคของมนุษย์
นกก็อยู่ในประเภทของสัตว์
ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎเช่นเดียวกัน
ทางด้านซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า
นางฟ้าและสัตว์ที่ดูเหมือนกับนางฟ้าที่เป็นซาตาน
ถูกสร้างขึ้นและถัดออกไปก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของจิตที่ชั่วร้าย
ซึ่งกลายเป็นศัตรูกับพระผู้เป็นเจ้า
จิตวิญญาณที่มีพันธะผูกมัด
หรือที่เป็นแบบพฤกษาศาสตร์
สัตว์ซึ่งปรากฏตัวภายหลังอยู่ด้านหลังของจิตวิญญาณชั่วร้าย
ทางด้านซ้ายของพระผู้เป็นเจ้าก็ได้พัฒนาความเป็นศัตรูกับมนุษย์
จิตวิญญาณที่มีพันธะผูกมัดของแบบนี้จะถูกส่งไปยังโลกและด้วยเหหตุผลนั้นซึ่งถ่านและเถ้าก็จะกลายไปสู่สิ่งที่มีชีวิต
แก๊สต่างๆ
ก็จะถูกปล่อยออกมาและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายต่อมนุษย์เนื่องจากจิตวิญญาณแห่งพฤกษศาสตร์
และประเภทนี้มีอันตรายและเป็นผักที่มีหนามคม
ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์และความเป็นอยู่
เนื่องจากจิตวิญญาณของสัตว์ประเภทนี้
(ทางด้านซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า)
จะมีความป่าเถื่อนกินมนุษย์และสัตว์
นกมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มกลุ่มนี้เนื่องจากความเป็นปฏิปักต่อมนุษย์
ซึ่งได้รับการประกาศว่าไม่เป็นไปตามกฎ
ของการบริโภคของมนุษย์
ด้วยเหตุผลประการนี้สัตว์และนกต่างๆ
ในลักาณะนี้จะได้รับการยึดถือโดยข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขากินอาหารโดยถือมัดขึ้นไว้พร้อมกับอุ้งมือและเท้า
จิตวิญญาณทางด้านขวาของพระผู้เป็นเจ้านั้นจะต้องรับใช้มนุษย์ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นผู้ถือนำข่าวสารและเป็นผู้ช่วยและมนุษย์ก็จะได้รับการให้มากที่สุด พร้อมทั้งความดีเลิศและความสมบูรณ์และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยของพระผู้เป็นเจ้า ตอนนี้จะต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่ตัดสินใจและความพยายามและชะตากรรมของแต่ละบุคคลว่าจะเป็นผู้ช่วยของพระผู้เป็นเจ้าหรือจะปฏิเสธสถานภาพ จิตวิญญาณของตนเองจะปล่อยให้ร่างกายหยุดในความหลับและฝันก็จะค่อยๆ ปรากฏตัวแก่บุคคลที่มันอาศัยอยู่ภายในและเดินทางไปรอบๆ
ที่มีการรวบรวมของซาตานสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณอีกรูปแบบหนึ่ง
คานนัส ก็มีความเกี่ยวเนื่องหรือมีการติดต่อสัมพันธ์กับจิตวิญญาณแห่งตนเอง
มันคล้ายคลึงกับช้างและนั่งอยู่ระหว่างจิตของตนเอง(
ณ กึ่งกลาง)
และสภาพของจิตวิญญาณ
คาล์ป (ซึ่งใกล้ชิดกับหัวใจ)คานนัส
(Khannas) จะช่วยจิตวิญญาณของตนเองในการดึงดูดและนำพามนุษย์ไปในทางที่ผิด
ยิ่งไปกว่านั้นนกที่เป็นจิตวิญญาณ
4 แบบที่แนบกับสิ่งเหล่านั้นกับลักษณะของจิตวิญญาณ
4 ประเภทอยู่ภายใจร่างกายมนุษย์ที่เรา
ทราบกันดี เสมือนว่าเป็นคาล์ป
ก็คือ
เซอร์รี่ คาฟฟี่
อัคฟ่า
อีกครั้งหนึ่ง หน้าที่ของสิ่งเหล่านั้นคือ
จะต้องนำพามนุษย์
ให้ออกนอกหนทางไป
นก
4 ประเภทเหล่านี้รวมถึง
เจ้าไก่ตัวผู้ซึ่งติดอยู่กับ
คาล์ป ซึ่งเป็นผลเนื่องจาก
ซึ่งยังมีราคะตัณหา
ครอบงำจิตใจอยู่ และเพียงเมื่อคาล์ปในตัวของมันเองเขาไปเกี่ยวข้องกับการร้องเพลงในนามของพระผู้เป็นเจ้า
(ระเบียบแห่งจิตวิญญาณที่ปฏิบัติอยู่ภายใต้การนำแห่งการนำของจิตวิญญาณที่สมบูรณ์)
จะทำให้ไก่นั้นในที่สุดกลายเป็นสิ่งที่มีความบริสุทธิ์และเพียงเมื่อเกิดความตระหนักถึงและความซาบซึ้งในสิ่งซึ่งเป็นกฏและสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฏซึ่งพัฒนาอยู่ในบุคคลคาล์ป
ในสถานภาพนี้จะเป็นที่ทราบกันมีเสมือนเป็น
คาล์ปที่ตื่นและมีความเข้มแข็ง
ติดกับจิตวิญญาณ
เซอร์รี่ ก็คือ
อีกา สิ่งเหล่านี้จะทำการปลดความอยากและความโลภและสิ่งที่ติดกับจิตวิญญาณที่เป็น
คาฟฟี่ ก็คือจะเป็นนกยูง
ซึ่งจะสร้างความอิจฉาริษยาให้กับบุคคลและจิตวิญญาณ
ที่เป็นอัคฟ่า ก็คือ
นกพิราบ
ซึ่งจะมาเสมือนเป็นสิ่งที่มีพิษ
ลักษณะของนก
4 ประเภทนี้ และความรู้สึกโลภโมโทสัน
ความริษยาของจิตต่างๆ
เหล่านี้ ก็มีเพียงจนกระทั่ง
สิ่งเหล่านั้นสามารถได้รับแสงธรรมส่องสว่างโดยทางจิต
และก็นก
4 ประเภทนี้เองซึ่งจะถูกนำออกมาจากร่างของ
อับบราฮัม และจะถูกทำให้บริสุทธิ์และจะถูกทำให้ส่งคืนไปสู่ร่าง
หลังจากความตาย
นกต่างๆ ภายใน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งที่บริสุทธิ์ก็จะทำบ้านของมันอยู่ในต้นไม้
คนหลายๆ คนที่เสียงเหมือนกับนกหลังจากที่ใช้เวลา เพียง
2-3 วันอยู่ในป่า
นกเหล่านี้จึงกลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกับคนและช่วยเหลือพวกเขาพร้อมด้วยการรักษาโรคเจ็บป่วยเล็กๆ
น้อยๆ
หมายเหตุสำคัญ
-
จิตวิญญาณของตนเองนั้นจะเชื่อมต่อกับซาตาน
-
จิตวิญญาณ
5 ประเภทที่อยู่ภายในใจ
ก็จะมีการติดต่อเป็นการส่วนตัวกับผู้นำข่าว
5 คน
-
จิตวิญญาณ
แอนนา พลอยู่ในศรีษะและมีการเกี่ยวเนื่องกันกับพระผู้เป็นเจ้า
-
ร่างกายของมนุษย์ในทำนองเดียวกันจะเชื่อมต่อกับการนำพาของจิตวิญญาณที่มีความครบสมบูรณ์